over game
จากคนธรรมดาสู่ การกลายเป็นเทพที่ผู้คนต่างพากันหวาดกลัว การปรากฎตัวของเขาอาจหมายถึงการทำล้มสลายของโลกใบนั้นเลยก็ได้
ผู้เข้าชมรวม
103
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ บ้านหลังหนึ่งในชนบนห่างไกล มีชายติดเกมที่หลีกหนีสังคม เอาแต่ขังตัว เองอยู่ในห้องนอนตลอด สิ่งที่ทำให้เขา สามารถอยู่แบบนี้ได้ นั้นก็เพราะความรำรวยของตระกูลเขา เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล ความรำรวยของที่บ้านนั้น เกินบรรยายชนิดที่ สามารถแจกเงินให้คนละพัน จำนวนแสนคนก็ยังมีใช้เหลือเฟือ
"ชิ...ไอกากเอ๊ย คิดจะลองของกับกูรึไออ่อน เจอนี่หน่อยบ่อเลือดทำงาน "
วันนี้เขาก็เอาแต่นั่งเล่นเกมเหมือนเดิม
"เสร็จกู ไอควายเอ๊ย ฮาๆๆ"
ชื่อของเขาคือกาย เขาเป็นคนที่คลั่งไคล้เกมและอนิมาก มากจนไม่ยอมทำอะไรอย่างอื่น ส่วนความสามารถในการเล่นเกมก็ถือว่าอยู่สูงระดับหนึ่ง เกมที่เล่นส่วนใหญ่เป็นรูปแบบ MMORPG
โดยมีสถิติการเล่นคือ ชนะในการ pvp 489ครั้ง แพ้เพียง21ครั้งเท่านั้น
กริ่ง!!
"หือ...ข้อความไม่ทรามที่มาหรอ พวกแพ้แล้วพาลรึเปล่า ไหนลองดูหน่อยสิ"
คลิก.....
แดดแรงกล้าราวกับจะแผดเผาโลกทั้งใบให้มอดไหม้ กลับมีชายมานอนตากแดดอยู่กลางทุ่งโลงกว้างไร้ผู้คน ซึ่งนั้นก็คือกาย ไม่นานเขาก็เริ่มได้สติและค่อยๆเอามือมาบังแดด
"นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ถ้าจำไม่ผิดเราเล่นvrอยู่ ไหงมาโผล่มาอยู่กลางทุ่งได้"
กายลุกขึ้นนั่งและคิด
"จริงสิตอนนั้นเราคลิกดูข้อความอยู่ๆก็มาที่นี้หรือนี้คือตัวเกมที่พัฒนาใหม่กันนะ"
ใช้แน่ๆยังหาหน้าเมนูได้อยู่ ติดแค่ไม่มีที่กดออกจากเกมแต่ช่างเหอะลองเล่นหน่อยดีกว่า
ห่างออกไปจากทุ่งโล่ง มีกลุ่มคนกำลังตามจับสัตว์ปีศาจ ที่มีชื่อว่า หมามังกร
"เฮลิซ่า มาแข่งกันใครจะจับมันได้ก่อนกันเอามัย"
"ได้อยู่แล้วแบล็ค คนที่แพ้เลี้ยงเหล้านะ แต่ฉันเตือนไว้ก่อน นักรบไม่มีทางเร็วเท่า แอสซาซินหรอกนะ"
"โม้~ไปเถอะลิซ่าเดียวจะทำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอัศวินแห่งเลือดให้ดู"
"แล้วเธอสองคนละมีอาเอามัย"
"อะๆๆเอาไมจิน"
ทั้งสองต่างมองตากันโดยไม่พูดอะไร
"จะๆๆๆจินเขามะๆไม่เอานะ"
ทั้งสี่คนคือนักล่าเงินรางวัลและในบางโอกาสก็รับงานนอกเวลาด้วย ชื่อทีมคือแบล็คสกาย โดยมีแบล็คเป็นหัวหน้าทีมเป็นหน่วยหน้ากล้าตายและมีลิซ่าที่เป็นแอสซาซินสาว เป็นรองหัวหน้า
และอีกสองคนคือมีอานักเวทตร์และจินนักฆ่าแบบเดียวกับลิซ่า ไม่นานลิซ่าก็เห็นมันสิ่งที่พวกเขาไล่ตามจับ
"นั้นเจอแล้วมันอยู่หลังพุ่มไม้นั้นเอาเลยมีอา"
"อะอือ ธนูแห่งสายลมเอ๋ยจงเสียบแทงศัตรูของเรา"
เมื่อสิ้นคำพูดของมีอาก็มีลมพุ่งไปข้างหน้าของมีมา และตามมาด้วยเสียงหมาร้องเอ๋งๆ
"นี้ มีอาเราจับเป็นนะ ถ้ามันตายก็ไม่ได้เงินกันพอดี"
แบล็คพูดพร้อมทำสีหน้าปลงตก
และรีบพุ่งไปยังเหยื่อที่พวกเขาได้
แบล็คเป็นคนไปเอาตัวมันของมันออกมาจากหลังพุ่มไม้
"มีอาใช้เวทตร์ตรวจดูทีสิใช้ลูกหมามังกรหรือเปล่า"
"เทพแห่งการตรวจสอบเอ๋ย ในนามของข้ามีอาข้าข้อยืมดวงตาของท่านด้วย"
เมื่อจบการร่ายคาถามีอาก็ทำมือเป็นวงกลมครอบตาขวาและหลับตาซ้าย
"สะ...สุดยอดเราเจอของดีแล้วละนะๆๆนี้คือหมามักกรไฟที่มีขนสีขาวหายากมากๆเลยละ"
"จริงดิมันมีแบบนั้นด้วยหรอแปลกแท้"แบล็คทำหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งส่วนลิซ่าเดินไปตรวจสอบบาดแผล
"แผลไม่ลึกมาก แต่ที่ขยับไม่ได้คงเป็นเพราะหนีพวกเราจนเหนือย"
ลิซ่ากำลังจะพูดต่อแต่ก็ต้องหยุด ลงเพราะมีอาตะโกนออกมาก่อน
"อย่าขยับนะทุกคนดูเหมือนจะๆจินจะสัมผัสได้ถึงอะไร สะสะสะสักอย่างกำลังมาทางนี้"
"ใช่แม่มันมัย"
แบล็คพูดขณะยื่นมือไปจับดาบตามสัญชาตญาณรวมถึงลิซ่าด้วย สวนมีอาขยับไปอยู่ข้างหลังของกลุ่ม
"ว้าว~สุดยอดไปเลย เหมือนจริงสุดๆเลย ทั้งต้นไม้ทั้งสัตว์ป่าของเขาดีจริงๆ"
ทั้งสี่คนมองชายที่แต่งตัวเหมือนนักบวชนอกรีต ที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าของทั้งสี่คนแต่ไม่มีใครขยับหรือมีที่ท่าจะทำอะไรอื่นนอกจากมองประเมินคู่ต่อสู้
"เอ่...นั้นnpcงั้นหรอโคตรเหมือนของจริงดูมีมิติมากจริงๆแต่ทำมัยรู้สึกบรรยากาศมันแปลกๆแหะ"
ไม่นานแบล็คก็กระซิบถามมีอา
"เจ้านั้นคนจริงๆใช่ไม ตรวจสอบที่สิ"
อืม มีอาเริ่มตรวจดูด้วยเวทตร์เดียวกันกับที่ใช้ตรวจหมามังกร
"ใช่แค่คนธรรมดา แปลกแค่คนๆนั้นเลเวลศูนย์นะ"
อ่อนชะมัดใครบ้างคนในสี่คนพูดออกมาในขณะนั้นเองหมามังกรก็กัดเขาที่ข้อเท้าของแบล็คเข้า ด้วยความเจ็บบวกกับความโกรธแบล็คเลยกระทืบหัวของหมามังกรจนเลือดออกจากปากและจมูก
"แบล็คพอแล้วเดียวมันก็ตายหรอก"
อยู่ๆก็เกิดลมประหลาดพัดขึ้นมา บรรยากาศโดยรอบตรึงเครียดจนหน้ากลัว
"มีอามันเกิดบ้าอะไรขึ้น รีบหาที่มาของมันเร็ว"
ทั้งสามคนหันไปมองที่มีอาที่ใช้มือต่างแว่นมองชายที่ใส่ชุดนักบวช มีอาชี้ไปทางเขา แต่ทั้งสามคนก็ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างจากเมื่อกี่ แต่ไม่ใช้กับมีอาสิ่งที่เธอเห็นคือกลุ่มพลังสีดำที่วัดค่าไม่ได้และร่างจริงของชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอยืนมองจนเดือดไหลออกจากตาและจมูกของเธอๆกัดฟันแน่นยืนตัวสั่นไม่หยุด โดยทั่วไปคนที่มีความสามารถมากพอจะสามารถปกปิดเลเวลของตัวเองได้แม้ตอนใช้พลัง แต่มันก็ไม่สามารถปกปิดออร่าเวทมนตร์ ตอนใช้เวทตร์มนตร์ได้ และนั้นคือสิ่งที่แสดงพลังที่แท้จริง
"วะวะไว้ชีวิตฉะๆฉันด้วยยะๆอย่าฆ่าฉันเลยฉะๆๆฉันยังไม่อยากตายยังไม่อยากตาย อึๆๆขอร้องละค่ะได้โปรด .....
สามคนที่เหลือต่างไม่เชื่อสายตาตัวเองมีอาที่เป็นนักเวทที่มีเลเวลยี่สิบ ติดท๊อบยี่สิบของบุคลที่มีความสามรถในเมื่องสีรุ่ง จะทำแบบนั้น
"ฮาๆๆ มีอาเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ"
แม้จะพูดแบบนั้นแต่ลิซ่าก็ไม่ประมาทแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีถึงความสามารถของเพื่อนตนเป็นอยางดี จินพุ่งเข้าหากายโดยไม่รีรออะไรทั้งนั้น
พร้อมใช้มีดฟันคอของกาย ลึกเข้าไปถึงครึ่งคอ แต่กายก็ไม่แสดงความเจ็บปวดเพียงแค่คว้าจับแขนข้างที่ถือมีดไว้และ เอื่อมมือไปดีดหัวของจินเพียงเท่านั้นสมองของจินก็ระเบิดจนไปโดนทั้งสามที่ยื่นอยู่ข้างหลัง
ไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะคะ มีอายังคงร้องขอชีวิต ส่วนลิซ่าและแบล็คต่างก็ช็อกด้วยกันทั้งคู่
แบล็คเมื่อเริ่มได้สติก็ค่อยๆถ่อยหลังเตรียมหนี เร็วดั่งความคิดกายก็มายืนอยู่ตรงหน้าของแบล็คแล้ว กายค่อยๆดึงดาบที่ติดอยู่ที่คอออก และใช่มีดฟันเข้าที่ใบหน้าจากขวาจนถึงข้างซ้าย ไม่นานหัวก็แยกออกเป็นสองส่วนในแนวนอน ส่วนบนไหลหลุดจากหัวไปกองอยู่ที่พื้นก่อนที่ร่างจะตามไปด้วย
ลิซ่าได้ยินเสียงบ่างอย่างหล่น จึงรีบหันไปดู ก็เห็นว่าแบล็คได้ตายไปแล้ว
กายค่อยๆเดินไปหาลิซ่าและใช้มือขยำไปที่หน้าอกของเธอ
"สุดยอดสัมผัสเหมืนจริงมากทั้งเลือดทั้งน้ำตามันคุ้มกับที่จ่ายไปเจียดหมื่นจริงๆนุ่มสุดยอด อะจริงสิ"
อยู่ๆกายก็นึกอะไรขึ้นมาได้
"จงเผาไหม้"
สิ้นคำพูดร่างกายของเลิซ่าก็เกิดไฟลุกไหม้เธอกรีดร้องและดิ้นพรานไปทั่ว เพียงไม่นานร่างนั้นก็หยุดลง กายใช้มือฉีกแก้มของลิซ่า เขาดมสองสามที่ก่อนที่จะยัดมันเข้าปาก
"สุดยอดอร่อยมาก ดูถ้าตัวเกิมใหม่จะไม่มีกฎห้ามอะไรเลยแหะแบบนี้จะไม่โดนเล่นงานเอาที่หลังเอาเหรอ"
มีอารับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นมันยิ่งทำให้เธอกลัวยิ่งขึ้นไปอีก
"ไว้ชีวิตฉันด้วยเถอะคะ"
กายพึ่งนึกออกเมื่อได้ยินเสียงของมีอา ว่ายังมีเธอเหลืออยู่ เธอเป็นสาวผมทองไว้ผมหน้าม้าผู้มี ผิวเกรียมแดดหน้าอมชมพูนิดๆ
"ถ้างันจูบฉันที่สิ"
มีอาลุกขึ้น ปิดตาลงทำปากจู๋ ไม่นานก็มีกลิ่นลมหายใจเหม็นๆลอยเข้าจมูก ก่อนที่จะมีริมฝีปากมาประกบกับฝีปากของเธอ เธอลืมตาขึ้นก็เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันก็คือเจ้าหมามังกร เธอรีบผลักมันออกและรีบเอาน้ำที่พกมา ล้างปากอย่างเร็ว
"ฮาๆๆๆ หมานี้น่ารักดีนะดูถ้ามันจะชอบฉัน ฉันไม่ฆ่าเธอหรอกแต่เธอต้องมาเป็นข้ารับใช้ฉัน"
"จะว่าไปเมืองอยู่ทางใหนหรอ"
"ทะทางเหนืออีกห้าสิบกว่ากิโลก็ถึงค่ะ"
อืม...กายเดินไปคว้าหัวของลิซ่าพร้อมกับถามชื่อของมีอา จากนั้นหยิบเอามีดของลิซ่าตัดหัวของลิซ่า
"ทางเหนืองั้นหรอ มาดูกันว่าจะไปถึงไหนรายเวทตร์ระบุตำแหน่งแล้วไป"
กายขว่างหัวของลิซ่าด้วยความแรงขนาดถึงขั้นที่ทำให้พื้นที่ยืนอยู่ปริแตกออกจากกัน หัวค่อยลอยหายลับไป
"ไปเมืองหลวงกันมีอา นำทางไปเลย"
ก่อนไปมีอา หันมองพวกพ้องที่ตนไม่ สามารถช้วยอะไรได้ ทำได้เพียงแค่กล่าวเบาๆกับสายลม ว่า
ขอโทษนะ
ณ เมืองสีรุ่ง
ในตอนนี้กำลังเกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะอยู่ๆท่านเฒ่าพยากรณ์ ก็สั่งให้รีบมาประชุมด่วน ตรงทางเดินไปห้องประชุม มีชายสองคนกำลังเดินอย่างเร่งรีบ
"ท่านเคานต์รุดซีรู้มัยว่า มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมเฒ่าพยากรณ์ถึงได้เรียกประชุมด่วน"
คนที่ชื่อเคานต์รุดซีเป็นชายร่างบอบบางหน้าตาเหมืนผู้หญิงซ้ำร้ายยังตัวยังเล็กราวกับเด็กสิบสามสิบสี่ เงยหน้ามอง ตอบท่านหนูอย่างเด็กขี้เล่น
"ไม่รู้สิแต่ได้ยินมาว่าเป็นเรื่องร้ายๆหนะคุณหนู"
"เลิกทำเป็นเล่นได้แล้ว"
"อภัยให้ข้าด้วยข้ายังเด็กนัก"
"ยี่สิบห้านี่ไม่เด็กแล้วมังท่าน"
"ยังไงหน้าข้าก็เด็กกว่าท่านหล่ะนะฮาๆๆๆ"
หน่อยไอบ้านี่ ท่านหนูกำหมัดแน่น
ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่หน้าประตู ขนาดใหญ่ที่มีรูปภาพสลักของเทพีที่กำลังใช้สายน้ำชำละล้างโลก หลังจากเคาะประตูและยืนรอไม่นานประตูก็เปิดออก
ทั้งคู่เดินเข้าไปถึงก็นั่งในที่ๆเหลืออยู่ ในห้องกว้างกวางจนไม่รู้จะใหญ่ไปใหน โต๊ะที่นังเป็นโต๊ะยาวรูปวงรี
ในห้องตอนนี้มีคนอยู่ราวๆสิบคน ในห้องตอนนี้ เต็มไปด้วยเสียงผู้คน พวกเขาคุยฆ่าเวลา เพราะกำลังรอท่านผู้เฒ่ามา
ไม่นานก็มีคนถูกเข็นเขามา เขาคือตาแก่ที่มีอายุไปตำกว่าหนึ่งร้อยปี
"เงียบได้แล้ว ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาวันนี้เพราะข้าเห็นนิมิตที่สุดแสนจะเลวร้าย
จักรวรรดิสีรุ่ง ของพวกเราอาจถึงคราวล้มสลายในเวลาอีกไม่นาน"
"เดียวก่อนท่านคือข้าสงสัยว่า มั่นใจได้มากแค่ไหน ท่านเคยพลาดมาสี่ครั้งแล้วนะ"
ชายคนหนึ่งถามขึ้นอย่างไม่ไว้หน้า
"ถ้างันข้าขอถามพวกเจ้าในนี้มีใครจ้างคนไปตามจับหมามังกรหรือไม่"
ในไม่ช้าก็มีคนยกมือขึ้นหนึ่งคน
"ข้าเองท่านผู้เฒ่า"
"ท่านหนูท่านคือคนที่เริ่มมันขึ้น"
ท่านหนูจ้องมองตอบท่านผู้เท่า
"ข้าทำอะไรผิด ใครๆก็ทำกันการจับหมามังกรมาเป็นสัตร์รับใช้ไม่ผิดกฎหมายซักหน่อยนิ"
"ใช้ตามปกติมันไม่ผิด เพียงแต่ครั้งนี้มันผิด ตามนิมิตของข้า มันเริ่มจากมีคนทำให้เทพแห่งความตายโกรธด้วยการทำร้ายสัตว์ของเขา และจะมีคนฆ่าทาสหญิงของเขาตายและสุดท้ายจะมีคนข่มขืนหญิงที่เขารัก
และพวกคนที่ทำเรื่องพวกนั้นทั้งหมดจะเป็นคนของเมืองนี้"
มีคนเสนอความคิดเห็นขึ้น
"ถ้างันก็รีบส่งคนไปฆ่าเขาทิ้งก่อน ที่อีกสองข้อจะเกิดขึ้นสิ"
"ท่านคิดว่าเขาอ่อนแอ่มากรึไงบารอนแอมโบร์"
ท่านหนูหลังจากเงียบอยู่สักพักก็พูดออกมา
"ท่านเอาอะไรมามั่นใจ ท่านอาจหลอนไปเองก็ได้
ท่านผู้เฒ่าชี้ไปที่คนที่นั่งใกล้หน้าต่าง
"เจ้านะเปิดหน้าต่างข้างหลังเจ้าสิ หัวของผู้ที่ถูกจ้างโดยท่านหนูจะต้องพุ่งมาใน
ห้า...สี่...สาม...สอง...หนึ่ง...
โป๊ะ!! มีของบ้างอย่างพุ่งเข้าใส่หน้าท่านหนูที่เดินไปยืน ใกล้หน้าต่างอย่างจัง ของสิ่งนั้นตกลงไปที่พื้น มันคือหัวที่ไหม้เกรียมแก้มถูกฉีกหายไปข้างหนึ่งผู้คนในห้องต่างพากันพะอืดพะอม เคานต์รุดซีถึงกับอวกแตกลงบนตก เมื่อท่านผู้เฒ่าเห็นว่าสิ่งที่เห็นในนิมิตเป็นจริงท่านก็มั่นใจ
"จงฟังรีบส่งทหารหนึ่งกองทัพขึ้นเหนือเข้าสำรวจป่าเข็มโดยด่วนที่สุดและจงให้การตอนรับชายผู้มากับหมามังกรและหญิงสาวอย่างดี หน้าที่นี้เป็นของท่านหนู ฝากด้วยนะท่าน"
เช้าวันต่อมา ณ ทางเข้าป่าแห่งเข็ม
นี้มันบ้าอะไรกันมันมีจริงๆนะหรอไอเทพแห่งความตายอะไรนั้น
สิ่งที่ท่านหนูสงสัยนั้นล้วนถูกต้องแม้แต่เหล่าผู้ที่ได้ยินคำพยากรณ์ ล้วนต่าง เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ท่านหนูต้องออกมาในครั้งนี้นั้นเป็นเพราะความหวาดกลัวอย่างยิ่งของเฒ่าพยากรณ์ และเพราะหัวที่ลอยมาตามคำบอกของเฒ่าพยากรณ์ทำให้เขาเริ่มเชื่อขึ้นบ้าง ก่อนออกมาตาเฒ่าเล่าไว้ว่า เทพแห่งความตายนั้นออกมาตามคำภีร์ของชนเผ่าโบราณ ตามบันทึกที่ตาเฒ่าอ่านออกนั้นบอกไว้ว่า
เทพจะมาจุติ เทพองนี้นั้นเกลียดชังทุกชีวิต พระเจ้าส่งเทพองนี้มาเพื่อทำลายล้าง สรรพชีวิตเมื่อเหล่าสิ่งมีชีวิตเริ่มไร้ศีลธรรม และนั้นทำให้อารยธรรมโบราณหายไปมาก พวกเขาเรียกเทพองค์ว่า
องค์เทพแห่งความตาย องค์เทพแห่งความเกลียจชัง แต่บ้างตำราเรียกว่าเทพแห่งการชำระล้าง
"หึ.....องค์เทพบ้าบ่ออะไรกันละนั้น แบบนั้นมันปีศาจชัดๆ"
เขาเห็นด้วยกับความคิดของรุดซี
" เทพที่ฆ่าทุกชีวิต แบบนั้นมันยิ่งกว่ากว่าจอมมาร เสียอีกนะนั้น "
จู้ๆ รุดซี ก็หลุดหัวเราะออกมา
"มีอะไรรึท่านเคานต์ "
"เปล่าแค่หัวเราะในความบ้าของตาเฒ่าเท่านั้นเอง"
" นั้นสินะ ถึงขนาดส่งกองกำลังส่วนตัวมาให้ตั้งสองหมื่น แทบยังส่งตัวทหารองครักษ์มานำกองอีกต่างหาก ขนาดเคานต์หนูเอามาตั้งหกพันก็ยังไม่พออีก"
ฮาๆๆๆๆๆๆ ในขณะ ที่ทั้งคู่หัวเราะอยู่นั้นก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งมาแจ้งแกท่านหนูว่า
"ท่านครับมีหญิงนางหนึ่งมาขวางการเดินเข้าป่าเข็มครับ"
"นางเป็นใคร"
"ไม่ทราบครับแต่จากการแต่งตัวน่าจะสังกัดอยู่กิลด์จอมเวทตร์ครับ"
"คุณหนูนั้นอาจเป็นข้ารับใช้หญิง ของเทพที่ว่านั้นก็ได้"
หนูนิ่งคิดอยู่ครูหนึ่ง
"คิดว่าตอนรับเธอดีกว่า แล้วรองสอบถามเธอดู"
ทั้งคู่เดินไปหา ผู้หญิงคนนั้น
เมื่อเดินมาถึง ท่านหนูก็ถามเธอทันที
"เธอมาทำอะไรที่นี้คนเดียว "
มีอา รู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ เพราะพวกเขา วางตัวสูงส่ง จนน่าหมั่นไส้
"ฉันโดนจ้างมา ฉันขอบอกคุณไว้ก่อนเลยนะ ว่าอย่าวางมาดมากตอนเจอเจ้านายฉัน เขาอาจจะไม่ชอบนัก"
ทหารที่ยืนฟังอยู่ด้วย ได้ยินแบบนั้นก็ขึ้นเสียงใส่เธอทันที่
"นี่ยัยผู้หญิง เธอคิดว่ากำลังคุยกับใคร ท่านทั้งสองคือขุนนางชั้นสูง พวกเธอต่างหากที่ต้องทำตัวให้ดี"
"เดี๋ยวพอเขามาแกจะรู้เอง"
"นังนี"
ทหารคนนั้นทำท่าไม่พอใจอย่างมาก
ผลงานอื่นๆ ของ Corali-k ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Corali-k
ความคิดเห็น